วันที่เผยแพร่ : 11 มี.ค. 2562 14:43 น.
วันที่เแก้ไข : 31 ส.ค. 2566 12:34 น.
พ่อแม่อาจคิดว่าเด็กเล็กๆ จะไปรู้เรื่องอะไรกัน แต่การปล่อยให้เด็กได้รับรู้รับฟังหรือตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดหรือสถานการณ์จำลองเหตุทะเลาะเบาะแว้งจากรายการทีวีหรือละครทุกวี่วัน ก็สามารถส่งผลเสียให้เกิดกับอารมณ์และจิตใจของเด็กได้
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เด็กสมัยนี้มีสภาพจิตใจผิดกับเด็กสมัยก่อนที่พ่อแม่จะร้องเพลงขับกล่อมลูกด้วยเสียงอ่อนหวาน แม้ว่าเด็กจะไม่เข้าใจความหมายของบทเพลงนั้น แต่ก็สามารถซึมซับอารมณ์อันอ่อนโยน น้ำเสียง และลีลาได้
จากการศึกษาพบว่า เด็กสามารถรู้สึกและมีอารมณ์ร่วมไปกับความบีบคั้น กดดัน และความวิตกกังวลของบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะพ่อแม่ อย่างเช่นเวลาที่พ่อแม่ทะเลาะกันเด็กอาจจะตื่นมาร้องไห้ด้วยความตกใจทั้งที่ไม่รู้ว่านี่คือการทะเลาะกัน เป็นต้น และเมื่อเด็กได้ดูทีวีหรือสื่อจากอินเทอร์เน็ตที่แพร่ภาพความก้าวร้าว เขาก็จะรู้สึกสับสนถ้าไม่มีผู้ใหญ่อธิบายว่านี่คืออะไร ก็อาจจะซึมซับและสะสมพฤติกรรมก้าวร้าวนั้นจนกลายเป็นทัศนคติที่ผิด แม้แต่หนังการ์ตูนบางเรื่องก็ยังมีเรื่องของสงคราม การสู้รบการทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งเด็กอาจถูกหล่อหลอมให้เป็นไปตามพฤติกรรมเหล่านั้นได้
จากการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบด้านอารมณ์และพฤติกรรมความรุนแรงของAmerican Academy of Pediatrics พบว่า ความรุนแรงที่เห็นจากหน้าจอทีวีและสื่อต่างๆ นับวันยิ่งมีเพิ่มขึ้นและส่งผลร้ายต่อเด็กนัก นั่นคือทำให้เด็กสะสมอารมณ์หวาดกลัว ความวิตกกังวล ขี้สงสัย นอนไม่หลับ ฝันร้าย หรือซึมเศร้า และมีแนวโน้มจะแสดงความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงรายการต่างๆ ที่มีการแสดงออกของพฤติกรรมทางเพศก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย จะทำให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมทางเพศของผู้ใหญ่ก่อนวัยอันควรจนชาชินกับเรื่องแบบนี้และพร้อมเลียนแบบ
พ่ออแม่จึงควรต้องระวังการเสพสื่อผ่านจอทีวีหรือจออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือ การนั่งดูไปพร้อมกับลูก
ที่มา: www.thaihealth.or.th
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Student Care
ยึดมั่นธรรมาภิบาล ทำงานเพื่อการศึกษาไทย....